อะโวคาโดไม่ใช่สำหรับทุกคน 6 กลุ่มเสี่ยงที่ควรกินอย่างระวัง
อะโวคาโดจัดว่าเป็นผลไม้สายเฮลท์ที่อัดแน่นด้วยคุณประโยชน์ ทั้งไฟเบอร์ วิตามิน B, C, E, K โปรตีน และโพแทสเซียม ช่วยบำรุงหัวใจ สายตา ระบบย่อยอาหาร เสริมกระดูก และอาจช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งได้ด้วย แต่แม้จะดีต่อสุขภาพแค่ไหน ผู้เชี่ยวชาญก็เตือนว่า บางกลุ่มคนควรระวังการกินอะโวคาโด เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงได้ หากคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ลองเช็กให้ชัวร์ก่อนเพิ่มอะโวคาโดในมื้ออาหารประจำวัน

คุณแม่ให้นมลูก
คุณแม่ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตรควรระวังการกินอะโวคาโดในปริมาณมากเกินไป เนื่องจากมีรายงานว่าอาจส่งผลให้ปริมาณน้ำนมลดลงได้ ดังนั้นแนะนำให้รับประทานในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ประโยชน์โดยไม่กระทบต่อการผลิตน้ำนม
คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้
สำหรับผู้ที่มีระบบย่อยอาหารบอบบาง การกินอะโวคาโดในปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการแน่นท้อง ท้องอืด หรือท้องเสียได้ แนะนำให้บริโภคไม่เกินครึ่งลูกต่อวัน เพื่อหลีกเลี่ยงอาการไม่สบายท้องและยังคงได้รับประโยชน์จากสารอาหารในปริมาณที่เหมาะสม
คนที่แพ้สารบางอย่างในอะโวคาโด
สำหรับบางคน อะโวคาโดอาจกระตุ้นอาการแพ้ เช่น คลื่นไส้ ปวดหัว ผื่นคัน หรือหายใจลำบาก หากคุณมีอาการเหล่านี้หลังบริโภค ควรหยุดกินทันทีและหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพ
คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับ
แม้ว่าอะโวคาโดจะอุดมไปด้วยสารอาหาร แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับ ควรระมัดระวัง เพราะอะโวคาโดมีสารอาหารที่อาจกระตุ้นการทำงานของตับ และหากร่างกายย่อยหรือเผาผลาญไม่หมด อาจเกิดการสะสมที่ส่งผลเสียได้ จึงแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคตับหรืออยู่ระหว่างการรักษา
คนที่กำลังใช้ยารักษาโรค
อะโวคาโดอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของยาบางชนิด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Warfarin) หรือยาลดไขมัน เนื่องจากอาจรบกวนการดูดซึมหรือเสริมฤทธิ์ของยาได้ หากคุณกำลังใช้ยาประจำอยู่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพิ่มอะโวคาโดในมื้ออาหาร เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง
คนที่อ้วน หรือกำลังลดน้ำนหัก
แม้ว่าอะโวคาโดจะเต็มไปด้วยไขมันดี แต่ก็มีแคลอรีค่อนข้างสูง หากกินมากเกินไปอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มโดยไม่ตั้งใจ โดยเฉพาะในช่วงควบคุมน้ำหนัก แนะนำให้กินในปริมาณพอเหมาะ เช่น ครึ่งลูกต่อวัน เพื่อให้ได้ประโยชน์โดยไม่เพิ่มภาระแคลอรีเกินจำเป็น
แหล่งที่มา : www.sanook.com