4 เหตุผลที่คนมักหมดไฟเวลาฝนตก

4 เหตุผลที่คนมักหมดไฟเวลาฝนตก

เคยเป็นกันไหม? แค่เห็นเมฆครึ้ม เสียงฝนกระทบหลังคา หรืออากาศเย็นชื้น ๆ ก็รู้สึกหมดแรง ง่วง หดหู่ ไม่อยากลุกไปไหน ทั้งที่เพิ่งตื่นหรือยังไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ หลายคนอาจคิดว่าแค่ขี้เกียจเฉย ๆ แต่ความจริงแล้ว “ฝนตก” มีผลต่อสภาพร่างกายและจิตใจของเรามากกว่าที่คิด

บทความเรานี้จะพาไปดู 4 เหตุผลทางวิทยาศาสตร์และพฤติกรรม ที่บ่งบอกว่าทำไมทุกครั้งที่ฝนตก เราถึงรู้สึก ‘หมดไฟ’ เสมอ

สาร Melatonin หลั่งเมื่อฝนตก

เมื่อฝนตกอากาศมืดครึ้มแม้ในเวลากลางวัน ส่งผลให้ร่างกายหลั่ง เมลาโทนิน (Melatonin) หรือฮอร์โมนที่ควบคุมวงจรการนอนหลับของเราออกมามากกว่าปกติ เมื่อเมลาโทนินเพิ่มขึ้นเราจึงรู้สึกง่วง เพลีย และอยากนอนอยู่ตลอดเวลา จนนาฬิกาชีวิตรวน หลับ–ตื่นไม่เป็นเวลา และอาจกระทบทั้งความจำและอารมณ์ในระยะยาวได้ด้วย

ความถี่ของเสียง ทำให้เราง่วง

งานวิจัยเผยว่าเสียงฝนมีความถี่อยู่ในช่วง 0–20 kHz ซึ่งเป็นย่านเสียงที่ช่วยให้สมองรู้สึกผ่อนคลาย เมื่อเราอยู่ในที่เงียบและได้ยินเสียงฝนชัด ๆ ประมาณ 10–15 นาที สมองจะเริ่มเคลิ้ม ส่งผลให้ร่างกายเข้าสู่โหมดง่วงอย่างไม่รู้ตัว เพราะเสียงฝนทำให้เรารู้สึกสงบ และชวนให้หลับสบายนั่นเอง

ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย เพราะประจุลบในอากาศ

ในวันที่ฝนตก ความชื้นในอากาศกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนประจุระหว่างก้อนเมฆและพื้นดิน ทำให้ในอากาศมีประจุลบสะสมจำนวนมาก ซึ่งร่างกายเราที่อยู่ระหว่างฟ้าและดินจึงได้รับประจุลบเหล่านี้ไปด้วย เมื่อร่างกายสะสมประจุลบมากขึ้น จะส่งผลต่อสมองให้รู้สึกผ่อนคลาย เฉื่อย และง่วงนอนได้โดยไม่รู้ตัว

ออกซิเจนน้อยลง ส่งผลให้รู้สึกหมดพลัง

เมื่อฝนตก พื้นที่มักอยู่ในภาวะความกดอากาศต่ำ ทำให้ออกซิเจนในอากาศลดลง ส่งผลให้เราหายใจได้ไม่เต็มปอด ทำให้รู้สึกอึดอัด คัดจมูก คล้ายเป็นหวัด เมื่อร่างกายรับออกซิเจนน้อยลงสมองจึงลดการทำงานลงเพื่อประหยัดพลังงาน ทำให้เรารู้สึกเฉื่อย ซึม และง่วงมากขึ้นโดยอัตโนมัติ

แหล่งที่มา : www.istrong.co